ท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและแสดงให้เราเห็นช่วงเวลาที่สวยงามไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะช่วง Magic Hour ของพระอาทิตย์ขึ้นและตก และ Blue Moment ที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือช่วงที่ท้องฟ้าทั้งหมดกลายเป็นสีแดงเพลิงเป็นช่วงเวลาพิเศษที่คุณอยากจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ
ในครั้งนี้ เราจะมาแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพเพื่อดึงดูดความงามของท้องฟ้าออกมาอย่างเต็มที่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้เวทมนตร์ของแสง
การถ่ายภาพท้องฟ้าให้ดูดราม่าขึ้นอยู่กับสภาพแสง โดยเฉพาะช่วงสั้นๆ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นหรือหลังพระอาทิตย์ตกที่เรียกว่า Magic Hour ซึ่งท้องฟ้าจะกลายเป็นสีส้มและชมพูอย่างแฟนตาซี นอกจากนี้ ช่วง Blue Moment หลังพระอาทิตย์ตกหรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีน้ำเงินเข้มเหมาะสำหรับการแสดงความเงียบสงบและความลึกลับ
วันที่อากาศสงบและมีความชื้นสูงหรือมีเมฆมากจะทำให้ผลลัพธ์เหล่านี้เด่นชัดขึ้น ตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนถ่ายภาพและให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า
การตั้งค่ากล้องเพื่อดึงสีสันของท้องฟ้า
การดึงความงามของท้องฟ้าออกมาต้องใส่ใจกับการตั้งค่ากล้องด้วย การตั้งค่า Exposure Compensation ให้เป็นลบจะทำให้สีของท้องฟ้าดูเข้มขึ้นและมีความลึกมากขึ้น นอกจากนี้ การตั้งค่า White Balance เป็น "Cloudy" หรือ "Shade" จะช่วยดึงสีสันที่อบอุ่นออกมา โดยเฉพาะสีของพระอาทิตย์ขึ้นและตกจะดูสดใสขึ้น
การตั้งค่า Aperture (F-number) ประมาณ F8 จะช่วยให้ภาพทั้งท้องฟ้าชัดเจนและคมชัดมากขึ้น นอกจากนี้ การตั้งค่า Shutter Speed ให้ช้าลงและใช้ขาตั้งกล้องจะช่วยจับภาพการเปลี่ยนแปลงของสีและการไล่ระดับสีของท้องฟ้าได้อย่างราบรื่น
การจัดองค์ประกอบและมุมมองเพื่อให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
การถ่ายภาพท้องฟ้าที่สวยงามต้องมีการจัดองค์ประกอบและมุมมองที่ดีด้วย หากต้องการให้ท้องฟ้าเป็นจุดเด่น การใช้เลนส์มุมกว้างจะช่วยให้สามารถจับภาพความกว้างของท้องฟ้าได้อย่างกล้าหาญ ในทางกลับกัน หากต้องการเน้นความต่างระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน การปรับอัตราส่วนระหว่างท้องฟ้าและพื้นดินเป็น 2:1 หรือ 3:1 จะช่วยเน้นความกว้างของท้องฟ้าให้ภาพดูมีพลัง
นอกจากนี้ การถ่ายภาพจากที่สูงเช่นหอชมวิวหรือสะพานลอยจะช่วยให้สามารถจับภาพท้องฟ้าในมุมกว้างได้อย่างมีพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคำนึงถึงตำแหน่งของดวงอาทิตย์และรูปร่างของเมฆเพื่อจับภาพแสงและการเปลี่ยนแปลงของสีจะทำให้ภาพดูน่าประทับใจ