ภาพถ่ายที่เขียนว่า 'การจับภาพความจริง' เป็นสื่อที่จับภาพ 'ความจริง' ของช่วงเวลานั้น ๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือแสดงออกที่มีพลังในการถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ให้กับผู้ชม อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ภาพถ่ายสื่อสารไม่จำเป็นต้องมีความหมายเดียวเสมอไป เช่น ภาพถ่ายสารคดีในข่าวหรือภาพถ่ายที่ถูกแก้ไขบนโซเชียลมีเดีย
ในครั้งนี้ เราจะพิจารณาความซับซ้อนของ 'ความจริง' ที่ภาพถ่ายมีและผลกระทบของด้านการสร้างสรรค์ที่มีต่อเรา
ความจริงที่ภาพถ่ายสะท้อน
ภาพถ่ายมักถูกมองว่าเป็นการสะท้อนความจริงของความเป็นจริง แต่ภาพถ่ายข่าวที่มีชื่อเสียงหลายภาพก็เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองเฉพาะ
ตัวอย่างเช่น ภาพ 'Falling Soldier' ของ Robert Capa (โรเบิร์ต คาปา) เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดความจริงของฉากนั้น แต่ก็สะท้อนความตั้งใจและช่วงเวลาที่ผู้ถ่ายเลือกที่จะจับภาพ ซึ่งทำให้ผู้ชมเกิดการตีความหรืออารมณ์เฉพาะเจาะจง ภาพถ่ายจึงมีบทบาทเป็น 'บันทึก' ในขณะเดียวกันก็เป็นสื่อที่ถักทอเรื่องราวและมุมมอง
ความจริงที่ถูกสร้างสรรค์ในโซเชียลมีเดีย
ในยุคปัจจุบัน ภาพถ่ายไม่ได้จบลงเพียงแค่การถ่ายภาพ แต่ยังมีการแก้ไขและปรับแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย บนโซเชียลมีเดีย ฟิลเตอร์ที่ทำให้สีสันสดใสและเน้นแสงเงาถูกใช้เป็นประจำ ทำให้ภาพถ่ายมีความสวยงามและน่าประทับใจมากกว่าความเป็นจริง
ภาพถ่ายที่ 'ถูกเสริม' เหล่านี้ให้ความรู้สึกประทับใจหรือความเห็นอกเห็นใจในชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็มีผลต่อมุมมองเกี่ยวกับ 'ความจริงของภาพถ่าย' ด้วย ภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดียเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการใหม่ในการเพลิดเพลินกับภาพถ่าย โดยการแสดงช่วงเวลาธรรมดาให้เป็น 'ความจริง' ที่แตกต่างออกไป
บทบาทของภาพถ่ายในฐานะ 'ความทรงจำ'
ภาพถ่ายที่มีลักษณะสารคดีมีความสำคัญในการบันทึกข้อเท็จจริงและส่งต่อไปยังอนาคตในฐานะ 'หลักฐาน' ภาพถ่ายที่ถ่ายในสนามรบหรือสถานที่เกิดภัยพิบัติสามารถบอกเล่าสถานการณ์ให้กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในที่นั้นและมีคุณค่าในฐานะบันทึกประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การจัดกรอบและการแก้ไขภาพถ่ายสามารถเปลี่ยนแปลงความประทับใจได้อย่างมาก
วิธีการสร้าง 'ความทรงจำ' ของภาพถ่ายเหล่านี้ทำให้เราต้องพิจารณาใหม่ว่าภาพถ่ายควรสื่อสาร 'ความจริง' อย่างไร เราจำเป็นต้องรับรู้ถึงความตั้งใจและมุมมองของผู้ถ่ายผ่านภาพถ่าย และรับเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป