พายุสุริยะที่แสดงแสงออโรราและส่งผลกระทบถึงดาวอังคาร | Release #233

Curiosity ลงจอดบนดาวอังคารเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และในการสังเกตการณ์ครั้งนี้ได้วัดปริมาณรังสีที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ข้อมูลนี้มีความสำคัญในการคำนวณรังสีที่นักบินอวกาศจะต้องเผชิญเมื่อไปยังดาวอังคารในอนาคต 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีพายุสุริยะและการปลดปล่อยมวลโคโรนาที่ส่งผลถึงดาวอังคารอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 ได้สังเกตเห็นพายุสุริยะที่ทรงพลังมาก X-ray และ gamma-ray ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงถูกปล่อยไปยังดาวอังคาร ตามด้วยการปลดปล่อยอนุภาคที่มีประจุจาก CME

ศูนย์การบินอวกาศก็อดดาร์ดของ NASA ได้ติดตามอนุภาคเหล่านี้ ผลลัพธ์คือกล้องของ Curiosity จับภาพเป็นจุดสีขาว

อุปกรณ์วัดอนุภาคพลังงานสูงของ Curiosity (RAD) วัดปริมาณรังสีที่มาถึงดาวอังคารซึ่งบันทึกการเพิ่มขึ้นสูงสุดที่เคยมีมา หากในขณะนั้นมีนักบินอวกาศยืนอยู่ข้างยานสำรวจ พวกเขาจะได้รับรังสีเทียบเท่ากับการทำเอกซเรย์ทรวงอก 30 ครั้ง

NASA วางแผนที่จะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคารในทศวรรษ 2030 ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณรังสีบนดาวอังคารจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ดวงอาทิตย์เป็นดาวที่มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมในรอบ 11 ปี และขณะนี้ใกล้ถึงจุดสูงสุดของรอบที่ 25 ดังนั้นจึงมีการเพิ่มขึ้นของจุดดวงอาทิตย์ พายุสุริยะ และการปลดปล่อยมวลโคโรนา พายุสุริยะเมื่อวันที่ 10 ถึง 12 พฤษภาคม 2024 ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าและการสื่อสารไร้สายบนโลก และทำให้สามารถสังเกตเห็นแสงออโรราที่สวยงามทั่วโลก

ยานสำรวจโคจรรอบดาวอังคาร "MAVEN" ได้สังเกตเห็นแสงออโรราบนดาวอังคาร Christina Lee หัวหน้าฝ่ายสภาพอวกาศของ "MAVEN" กล่าวว่า "นี่เป็นเหตุการณ์อนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดที่ MAVEN เคยสังเกตเห็น"

การสังเกตการณ์ของ "Curiosity" และ "MAVEN" แสดงให้เห็นว่าพายุสุริยะมีผลกระทบต่อดาวอังคาร การสำรวจอวกาศในอนาคตจะยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้น