ในเดือนมกราคม 2025, บริษัทใหญ่ในวงการภาพสต็อกอย่าง 〈Getty Images〉 และ 〈Shutterstock〉 ได้ประกาศการควบรวมเป็นบริษัทใหม่ 〈Getty Images Holdings〉 ที่มีมูลค่าประเมิน 3.7 พันล้านดอลลาร์
ครั้งนี้เราจะเจาะลึกถึงเบื้องหลังและวัตถุประสงค์ของการควบรวม, ผลกระทบของเทคโนโลยี AI, และความหมายสำหรับผู้สร้างสรรค์ภาพถ่าย
เบื้องหลังและวัตถุประสงค์ของการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมภาพสต็อก
〈Getty Images〉 และ 〈Shutterstock〉 เป็นบริษัทภาพสต็อกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ให้บริการภาพและวิดีโอนับล้านแก่สื่อข่าว, เอเจนซี่โฆษณา, และผู้สร้างภาพยนตร์ การควบรวมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ในการขยายคลังเนื้อหา, นวัตกรรมทางเทคโนโลยี, และเสถียรภาพทางการเงิน
ผู้ถือหุ้นของ 〈Getty Images〉 จะถือหุ้น 54.7% ในบริษัทใหม่ ขณะที่ผู้ถือหุ้นของ 〈Shutterstock〉 จะถือหุ้น 45.3% ทำให้เป็นการซื้อกิจการที่นำโดย 〈Getty Images〉 โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ที่มุ่งเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทั้งในด้านความต้องการเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์และการให้ข้อมูลสำหรับการเรียนรู้ของโมเดล AI
การเติบโตของเทคโนโลยี AI และโอกาสใหม่
เบื้องหลังการควบรวมนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ทั้งสองบริษัทได้เสนอเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างภาพได้ในเชิงพาณิชย์อยู่แล้ว และคาดว่าจะมีการลงทุนในเทคโนโลยีนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม มีการชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาของ AI อาจทำให้ความต้องการในตลาดภาพสต็อกแบบดั้งเดิมลดลง ด้วยการแพร่หลายของเครื่องมือ AI เช่น 〈Midjourney〉 และ 〈DALL-E〉 ที่เพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาภาพด้วยตนเอง บริษัทใหม่จึงมุ่งเน้นไปที่การให้บริการเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น รวมถึงการเสริมความปลอดภัยของเครื่องมือ AI
ผลกระทบต่อผู้สร้างสรรค์และแนวโน้มในอนาคต
การควบรวมครั้งนี้นำมาซึ่งโอกาสและความท้าทายใหม่สำหรับช่างภาพและผู้สร้างวิดีโอ ด้านบวกคือโอกาสในการขายเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น และการขยายฐานลูกค้าทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันด้านราคา, การเปลี่ยนแปลงในระบบการจ่ายค่าตอบแทน, และการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรฐานการตรวจสอบเนื้อหา เพื่อให้ผู้สร้างสรรค์สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในเทคโนโลยี AI และการสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์