ภาพถ่ายไม่เพียงแค่บันทึกและเก็บรักษาช่วงเวลา แต่ยังเป็นรูปแบบศิลปะที่ทำให้เราสามารถสนทนากับตัวเอง ประวัติศาสตร์ และสังคมได้อีกด้วย
ครั้งนี้ เราจะเจาะลึกถึงการเรียนรู้ที่ได้รับจากการที่นักสร้างสรรค์พัฒนาภาษาทัศนศิลป์และขุดค้นประวัติศาสตร์และเรื่องราว ผ่านกล้องและภาพถ่าย มาสำรวจความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตกันเถอะ
เจาะลึกการสนทนากับประวัติศาสตร์
ภาพถ่ายไม่ใช่แค่การบันทึก แต่เป็นสื่อที่ถักทอเรื่องราวทัศนศิลป์ การใช้ภาพถ่ายในอดีตเพื่อสร้างบริบทใหม่เป็นวิธีที่นักสร้างสรรค์สามารถค้นพบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกครั้ง
ผ่านโครงการที่ใช้ภาพถ่ายครอบครัวหรือภาพถ่ายเก่าในอดีต เราสามารถขุดค้นเรื่องราวของผู้ถ่ายภาพหรือวัตถุที่ถ่ายภาพได้ ซึ่งจะเปิดเผยว่าประสบการณ์ส่วนบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อย่างไร การใช้สายตาของวัตถุหรือการจัดฉากหลังอย่างชาญฉลาดยังเป็นวิธีที่น่าสนใจในการนำเสนอการตีความที่หลากหลายให้กับผู้ชม
เรื่องราวของภาพถ่ายที่บอกผ่านการเลือกสายตา
การเลือกสายตาในภาพถ่ายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่กำหนดอารมณ์และธีมของผลงาน การที่วัตถุมองตรงไปที่กล้องทำให้เชื่อมโยงกับผู้ชมโดยตรง ขณะที่การมองออกไปจะสร้างบรรยากาศลึกลับหรือขยายเรื่องราว
นอกจากนี้ การใช้สายตาเพื่อแสดงถึงภายในของวัตถุหรือความสัมพันธ์กับผู้ถ่ายภาพก็เป็นไปได้เช่นกัน ในการจัดภาพที่วัตถุมองไปไกลจะเน้นถึงความคิดถึงอนาคตหรือการครุ่นคิด การเลือกทิศทางและเจตนาของสายตาอย่างมีสติสามารถทำให้เรื่องราวของภาพถ่ายลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ศิลปะการถ่ายภาพที่ 'รู้สึก' มากกว่า 'เห็น'
อย่าลืมว่าภาพถ่ายเป็นสื่อที่กระตุ้นความรู้สึกมากกว่าที่จะเป็นเพียงศิลปะทัศนศิลป์ การเลือกสีหรือการใช้รูปแบบซ้ำๆ สามารถกระตุ้นอารมณ์หรือความคิดลึกซึ้งให้กับผู้ชมได้ เช่นเดียวกับที่สีน้ำเงินสื่อถึง 'ความปลอดภัย' หรือ 'การเดินทาง' การใส่ใจในความหมายที่แฝงในผลงานจะทำให้ภาพถ่ายส่งสารที่เป็นส่วนตัวและสากลได้มากขึ้น
ลองท้าทายการแสดงภาพถ่ายที่ทำให้ผู้ชม 'รู้สึก' มากกว่า 'เห็น' และเชื่อมโยงกับประสบการณ์หรือความทรงจำของตนเอง