Apple ได้เปิดตัว 'Apple Intelligence' ในงาน WWDC ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการแก้ไขภาพ ฟีเจอร์ใหม่นี้ใช้ประโยชน์จาก AI ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย
การแก้ไขภาพที่ง่ายขึ้น
การนำ AI ของ Apple มาใช้คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงวิธีการแก้ไขภาพอย่างมาก เทคโนโลยี AI จะทำให้การแก้ไขที่สร้างสรรค์เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและจะมีผลกระทบต่อผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายอื่น ๆ ในการอัปเดต iOS 18 ครั้งนี้ AI ที่สร้างขึ้นถูกนำมาใช้ในเนื้อหาต่อไปนี้:
- การปรับอัตโนมัติขั้นสูง: ปรับโทนสีและความสว่างของภาพโดยอัตโนมัติ
- การใช้ AI ที่สร้างขึ้น: สามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนพื้นหลังหรือเพิ่มวัตถุด้วยการดำเนินการที่ใช้งานง่าย
- อินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย: ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นและมอบประสบการณ์การแก้ไขที่ราบรื่น
อนาคตของการแก้ไขภาพที่ AI สร้างขึ้น
ผลกระทบของ 'Apple Intelligence' ต่อการแก้ไขภาพไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การพัฒนาทางเทคโนโลยี ฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI สร้างขึ้นมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังมีดังนี้:
- การกระตุ้นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์: ไม่เพียงแต่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถทำการแก้ไขภาพขั้นสูงได้ ซึ่งจะขยายขอบเขตการแสดงออกบนโซเชียลมีเดียและบล็อกต่าง ๆ และปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาสร้างสรรค์
- การใช้งานในสถานศึกษา: ในการศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขภาพในโรงเรียนหรือคอร์สออนไลน์ การใช้ AI ที่สร้างขึ้นจะทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะที่ใช้งานได้จริงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในชั้นเรียนศิลปะหรือการออกแบบ
- การยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมทั้งหมด: การเคลื่อนไหวของ Apple จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายอื่นพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่สร้างขึ้น ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงตัวเลือกที่หลากหลายและเครื่องมือที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
- สร้างตลาดใหม่: การแก้ไขภาพที่ใช้ AI สร้างขึ้นอาจกลายเป็นเรื่องทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ตลาดบริการสร้างสรรค์สำหรับบุคคลขยายตัว ตัวอย่างเช่น บริการแก้ไขภาพที่ใช้ AI หรือแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถขายผลงานของตนเองได้อาจปรากฏขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง 'Apple Intelligence' และ AI 'Genemi' ของ Google คืออะไร?
'Apple Intelligence' ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ แตกต่างจาก AI 'Genemi' ของ Google อย่างไร
'Apple Intelligence' ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยดำเนินการ AI ที่สร้างขึ้นบนอุปกรณ์ ทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงได้โดยไม่ต้องส่งข้อมูลออกไปภายนอก จึงมั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย
ในทางกลับกัน AI 'Genemi' ของ Google ใช้เทคโนโลยีบนคลาวด์ โดยประมวลผลข้อมูลจำนวนมากบนคลาวด์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และยังร่วมมือกับชุมชนโอเพ่นซอร์สเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี
เมื่อใช้งานในชีวิตประจำวันบน 'iPhone' 'Apple Intelligence' ที่ให้ความมั่นใจอาจเป็นที่นิยม อย่างไรก็ตาม Federico ของ Apple ได้กล่าวถึงชื่อของ Google โดยเฉพาะ โดยแสดงความตั้งใจที่จะให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ ChatGPT และ Google Gemini ได้
แนวโน้มที่คาดหวังในอนาคต
Apple มีแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่สร้างขึ้นอีกมากมายเพื่อให้เครื่องมือที่ดึงดูดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ การแก้ไขภาพจะสนุกและง่ายขึ้นในอนาคตที่คาดหวัง 'Apple Intelligence' ของ Apple มีผลกระทบหลายด้านและอาจเปลี่ยนแปลงกิจกรรมสร้างสรรค์ของเราอย่างมาก ด้วยพลังของ AI อนาคตที่เราสามารถแสดงสิ่งที่เราคิดได้อย่างตรงไปตรงมาอาจไม่ไกลเกินไป