ใช้เวลา 20 ปีในการสร้าง กล้องดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก | Release #123

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มฝันถึงการพัฒนาโทรทรรศน์ที่สามารถมองเห็นพื้นที่กว้างของจักรวาลได้ ซึ่งจะช่วยก้าวหน้าด้านดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ พวกเขาคาดหวังว่าโทรทรรศน์ใหม่นี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของสสารมืด

เพื่อทำให้ความฝันนี้เป็นจริง ในปี 2003 บริษัท LSST ได้ก่อตั้งขึ้น และในปี 2007 ได้รับการสนับสนุนทางการเงินรวม 30 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชื่อดังอย่าง Charles Simonyi และ Bill Gates ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 3.3 พันล้านเยน เพื่อเริ่มการติดตั้งกระจกซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโทรทรรศน์

ต่อมาในปี 2010 บริษัท LSST ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NSF) และกระทรวงพลังงาน (DOE) ทำให้การก่อสร้างกล้องโทรทรรศน์ซินอปติกขนาดใหญ่ (LSST) เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ การก่อสร้างได้รับความร่วมมือในระดับโลก และในปี 2015 การก่อสร้างสถานที่ขนาดใหญ่ที่ Cerro Pachón ในชิลีเพื่อการติดตั้งโทรทรรศน์ก็เริ่มขึ้น ส่วนประกอบต่างๆ ถูกผลิตในหลายประเทศ และโทรทรรศน์ก็ได้รับการประกอบอย่างต่อเนื่อง

หลังจากใช้เวลาประมาณ 20 ปี ในเดือนเมษายน 2024 กล้องดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก LSST Camera ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
กล้องมีน้ำหนัก 3000 กิโลกรัม และมีความละเอียด 3.2 พันล้านพิกเซล ซึ่งเทียบเท่ากับความละเอียดของกล้อง Leica S3 ถึง 5 เท่า ด้วยประสิทธิภาพที่น่าทึ่งนี้ กล้องสามารถจับภาพจักรวาลอันกว้างใหญ่ได้อย่างละเอียด เซ็นเซอร์สามารถจับภาพดาวและกาแล็กซีได้หลายหมื่นดวงในครั้งเดียว และมีความไวและความแม่นยำที่สูงกว่ากล้องทั่วไปอย่างมาก

ในอีก 10 ปีข้างหน้า LSST Camera จะสังเกตท้องฟ้าทางใต้มากกว่า 800 ครั้ง และถ่ายภาพวิดีโอที่มีความเคลื่อนไหวของจักรวาล นักวิทยาศาสตร์จะใช้ LSST Camera ในการวิเคราะห์โครงสร้างที่ซับซ้อนของจักรวาล การกระจายของสสารมืด และการเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์น้อย

เทคโนโลยีนี้ได้ขยายขอบเขตการรับรู้ของมนุษย์ ทำให้สามารถค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน การพัฒนาของเทคโนโลยีกล้องจะช่วยให้เราเข้าใจจักรวาลซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่รู้จัก และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการค้นพบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง